เปิดในหน้าต่างใหม่
ข่าวประชาสัมพันธ์ 16 กันยายน 2568

คอมเมดี้เรื่องเยี่ยมของ Apple อย่าง The Studio เป็นซีรีส์คอมเมดี้ซีซั่นแรกที่กวาดรางวัลไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Emmy ในขณะที่ Severance เป็นซีรีส์ดราม่าที่คว้ารางวัลมากที่สุดในงานประกาศรางวัล Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 77

Apple กวาดรางวัล Emmy ไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 22 รางวัลจากซีรีส์สุดฮิตเรื่อง The Studio, Severance และ Slow Horses

Severance เป็นซีรีส์ดราม่าที่ได้รางวัลมากที่สุดในปีนี้ โดย Tramell Tillman คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมประเภทดราม่า และ Britt Lower คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

Slow Horses ได้รางวัลกำกับยอดเยี่ยมประเภทดราม่า
The Studio คว้ารางวัล Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 77 ไปถึง 13 รางวัล และเป็นซีรีส์คอมเมดี้ซีซั่นแรกที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Emmy ด้วย
คัลเวอร์ซิตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในค่ำคืนที่ผ่านมา Apple TV+ ทำลายสถิติด้วยการคว้ารางวัล Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 77 ไปถึง 22 รางวัล รวมถึงซีรีส์คอมเมดี้ยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Studio ซึ่งเป็นซีรีส์ที่กวาดรางวัลไปมากที่สุดในปีนี้ และยังเป็นซีรีส์คอมเมดี้ซีซั่นแรกที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 13 รางวัลพร้อมกับสร้างสถิติใหม่ ในขณะที่ Severance ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก เป็นซีรีส์ดราม่าที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในปีนี้ถึง 8 รางวัล รวมถึงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Britt Lower) และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Tramell Tillman) ส่วนซีรีส์สายลับสุดฮิตอย่าง Slow Horses คว้ารางวัลกำกับยอดเยี่ยมประเภทดราม่า
"นี่เป็นค่ำคืนแห่งการทำลายสถิติที่ Seth, Evan และทีมครีเอทีฟของ The Studio จะไม่มีวันลืม" Zack Van Amburg หัวหน้าฝ่าย Worldwide Video ของ Apple กล่าว "เสียงตอบรับของแฟน ๆ ที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้มีความหมายกับพวกเราที่ Apple มาก ซึ่งรวมไปถึง Severance และซีรีส์ที่ได้รับคำชมอย่าง Slow Horses ด้วย พวกเราต้องขอบคุณ Television Academy และขอปรบมือให้กับศิลปินทุกท่านที่ได้แสดงให้เห็นว่าพลังของการเล่าเรื่องสามารถรวมผู้คนเป็นหนึ่งเดียวกันได้"
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็น The Studio ประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้" Jamie Erlicht หัวหน้าฝ่าย Worldwide Video ของ Apple กล่าว "รางวัลที่ได้รับในค่ำคืนนี้ ตั้งแต่ผลงานคอมเมดี้สุดเฉียบคมของ Seth และ Evan จนถึงการแสดงอันทรงพลังของ Britt และ Tramell ใน Severance แสดงให้เห็นแล้วว่าเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมสามารถเชื่อมโยงผู้ชมจากทุกที่เข้าด้วยกันได้ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อและผู้ที่ได้รับรางวัลในคืนนี้ทุกคน ความคิดสร้างสรรค์ของพวกคุณสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราเสมอ"
นอกเหนือจากรางวัลซีรีส์คอมเมดี้ยอดเยี่ยมแล้ว The Studio ซึ่งเป็นซีรีส์คอมเมดี้ซีซั่นแรก ยังคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Seth Rogen), เขียนบทยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้ และกำกับยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้ด้วย ยังไม่นับรวมรางวัลที่ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้แก่ นักแสดงรับเชิญชายยอดเยี่ยม (Bryan Cranston), ออกแบบการผลิตยอดเยี่ยม, คัดเลือกนักแสดงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้, กำกับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (ครึ่งชั่วโมง), เครื่องแต่งกายร่วมสมัยยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้ที่ใช้กล้องตัวเดียว, ควบคุมดนตรียอดเยี่ยม, ลำดับเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (ครึ่งชั่วโมง) และผสมเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (ครึ่งชั่วโมง)
Severance ซีซั่น 2 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี คว้ารางวัล Emmy Awards ไปถึง 8 รางวัลโดยที่ Tramell Tillman ได้รับรางวัล Emmy ตัวแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และ Britt Lower ได้รับรางวัล Emmy ตัวแรกเช่นกันในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทดราม่า และยังมีรางวัลที่ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ในงาน Creative Arts Emmys ได้แก่ นักแสดงรับเชิญหญิงยอดเยี่ยมจาก Merritt Wever, ออกแบบการผลิตยอดเยี่ยมสำหรับรายการเชิงเล่าเรื่องร่วมสมัย (หนึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้น), กำกับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (หนึ่งชั่วโมง), ประพันธ์ดนตรียอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (ดนตรีประกอบแนวดราม่า), ผสมเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (หนึ่งชั่วโมง) และออกแบบฉากเปิดเรื่องยอดเยี่ยม
หลังจากคว้ารางวัลเขียนบทยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ดราม่าในปีที่ผ่านมา ซีรีส์เรื่องดังของ Apple อย่าง Slow Horses ซีซั่น 4 ก็กลับมาคว้ารางวัลกำกับยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ดราม่า
จนถึงวันนี้ภาพยนตร์ สารคดี และซีรีส์จาก Apple Original คว้ารางวัลมาแล้วถึง 620 รางวัล และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลถึง 2,816 รางวัลอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Ted Lasso คอมเมดี้ที่ชนะ Emmy Award หลายรางวัล และ CODA ที่ชนะ รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รวมทั้งหมด Apple คว้ารางวัล Primetime Emmy Awards ครั้งที่ 77 ไปถึง 22 รางวัล ดังนี้
The Studio (13 รางวัล)
  • ซีรีส์คอมเมดี้ยอดเยี่ยม
  • นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์คอมเมดี้: Seth Rogen
  • นักแสดงรับเชิญชายยอดเยี่ยมในซีรีส์คอมเมดี้: Bryan Cranston
  • เขียนบทยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้: Seth Rogen, Evan Goldberg, Peter Huyck, Alex Gregory, Frida Perez
  • กำกับยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้: Seth Rogen, Evan Goldberg
  • ออกแบบการผลิตยอดเยี่ยมสำหรับรายการเชิงเล่าเรื่อง (ครึ่งชั่วโมง)
  • คัดเลือกนักแสดงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้
  • กำกับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (ครึ่งชั่วโมง)
  • เครื่องแต่งกายร่วมสมัยยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์
  • ลำดับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้ที่ใช้กล้องตัวเดียว
  • ควบคุมดนตรียอดเยี่ยม
  • ลำดับเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (ครึ่งชั่วโมง)
  • ผสมเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (ครึ่งชั่วโมง) และแอนิเมชั่น
Severance (8 รางวัล)
  • นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่า: Britt Lower
  • นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่า: Tramell Tillman
  • นักแสดงรับเชิญหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่า: Merritt Wever
  • ออกแบบการผลิตยอดเยี่ยมสำหรับรายการเชิงเล่าเรื่องร่วมสมัย (หนึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้น)
  • กำกับภาพยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (หนึ่งชั่วโมง)
  • ประพันธ์ดนตรียอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ (ดนตรีประกอบแนวดราม่า)
  • ผสมเสียงยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์คอมเมดี้หรือดราม่า (หนึ่งชั่วโมง)
  • ออกแบบฉากเปิดเรื่องยอดเยี่ยม
Slow Horses (1 รางวัล)
  • กำกับยอดเยี่ยมสำหรับซีรีส์ดราม่า: Adam Randall
The Studio
ในเรื่อง The Studio นั้น Seth Rogen รับบทเป็น Matt Remick หัวหน้า Continental Studios ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งสดๆ ร้อนๆ และในขณะที่หนังหลายเรื่องดูท่าจะตกยุคและไปไม่รอด Matt และทีมผู้บริหารหัวกะทิที่กัดกันไม่หยุดก็ต้องรับมือกับความสั่นคลอนในชีวิตของตัวเองและสู้รบปรบมือกับบรรดาศิลปินอีโก้สูงรวมถึงเจ้าของสตูดิโอใจเสาะเพื่อพยายามสร้างภาพยนตร์ดีๆ แม้จะดูไม่ใกล้เคียงความจริงเลยก็ตาม สิ่งเดียวที่ช่วยอำพรางความตื่นตกใจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อนคือชุดสูทเนี้ยบๆ ที่พวกเขาใส่ เพราะทุกงานปาร์ตี้ การเยี่ยมกองถ่าย การตัดสินใจเลือกนักแสดง การประชุมกับฝ่ายการตลาด และงานประกาศรางวัลล้วนเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ประสบความสำเร็จสุดปัง หรือบอกลาวงการไปแบบพังพินาศ และสำหรับ Matt ซึ่งเป็นคนที่กิน นอน และหายใจออกมาเป็นหนังแล้ว ตำแหน่งนี้คือสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาทั้งชีวิต แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตเขาด้วยเช่นกัน
Severance
ในเรื่อง Severance นั้น Mark Scout (Adam Scott) เป็นหัวหน้าทีมที่ Lumon Industries ซึ่งพนักงานต้องเข้ารับการผ่าตัดแยกสมองที่จะแบ่งความทรงจำออกจากกันระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว และการทดลองสุดท้าทายในเรื่อง "ความสมดุลของระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว" ก็สร้างความเคลือบแคลงใจให้กับ Mark ที่พบว่าตนเองเป็นศูนย์กลางแห่งปริศนาที่กำลังจะคลี่คลายและทำให้เขาต้องเผชิญกับความเป็นจริงเกี่ยวกับงานและชีวิตของตนเอง โดยในซีซั่น 2 นั้น Mark และเพื่อนต้องเรียนรู้ผลพวงอันเจ็บปวดของการล้อเล่นกับเส้นแบ่งของการแยกโลก ซึ่งนำพาพวกเขาดำดิ่งไปสู่ความทุกข์ระทม
Slow Horses
ดราม่าสายลับตลกร้ายเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองอังกฤษที่ต้องมาทำงานในแผนกที่ตั้งมาไว้รับเจ้าหน้าที่ MI5 ที่ถูกโละทิ้งเพราะทำผิดพลาดชนิดที่ไม่ควรเป็นสายลับอีก นำทีมโดยหัวหน้าที่ฉลาดเป็นกรดแต่อารมณ์ร้ายจนไม่มีใครอยากยุ่งด้วยอย่าง Jackson Lamb (Sir Gary Oldman ผู้ได้รับรางวัล Academy Award) พวกเขาต้องเสี่ยงชีวิตในโลกแห่งการจารกรรมที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเพื่อปกป้องอังกฤษจากภัยคุกคาม
รายการทั้งหมดสามารถรับชมได้ผ่าน Apple TV+ ในขณะนี้
Apple TV+ มีซีรีส์ดราม่าและคอมเมดี้ระดับพรีเมียมที่น่าสนใจ รวมถึงภาพยนตร์เรื่องยาว สารคดีสุดล้ำ ตลอดจนความบันเทิงสำหรับเด็กและครอบครัว ซึ่งพร้อมให้รับชมได้ทันทีผ่านหน้าจอที่แต่ละคนชื่นชอบ หลังจากเปิดตัวเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2019 บริการ Apple TV+ ได้กลายเป็นบริการสตรีมมิ่งรายแรกที่เปิดตัวทั่วโลกด้วยคอนเทนต์ Original ทั้งหมด ตลอดจนมีการฉายคอนเทนต์ Original รอบปฐมทัศน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและได้รับรางวัลมากมายเร็วกว่าบริการสตรีมมิ่งรายอื่นๆ ในช่วงที่เปิดให้บริการครั้งแรก
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

  1. ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/tvpr และดูรายการอุปกรณ์ที่รองรับทั้งหมด

สื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com